All About Europe ... ยุโรปน่ารู้! - All About Europe ... ยุโรปน่ารู้! นิยาย All About Europe ... ยุโรปน่ารู้! : Dek-D.com - Writer

    All About Europe ... ยุโรปน่ารู้!

    มารู้จักยุโรปกันเถอะค่ะ :)

    ผู้เข้าชมรวม

    243

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    243

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.พ. 58 / 21:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีค่ะทุกคน!!!
    วันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับทวีปยุโรปกันหน่อยนะคะ
    ลองเข้ามาอ่านกันดูนะคะ
    ไม่แน่นะ เนื้อหาในนี้อาจจะไปโผล่ในข้อสอบของใครบางคนก็ได้
    หากมีข้อผิดพลาดอะไร เราขออภัยด้วยนะคะ

    ^_^
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ทวีปยุโรป                                 

      ประวัติศาสตร์ทวีปยุโรป

       

           ทวีปยุโรปได้ชื่อว่าเป็นทวีปที่มีความก้าวหน้าที่สุดทวีปหนึ่งของโลกในด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศึกษา งานสำคัญๆ ที่มีค่าด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมส่วนใหญ่ก็ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในทวีปนี้นี่เอง

      ยุคก่อนประวัติศาสตร์
      ในช่วงแรกนี้สามารถแบ่งการเกิดของทวีปยุโรปได้ผ่านการวิวัฒนาการของมนุษย์เรานี่เอง

       

      ยุค 1.8 ล้านปีก่อน
      สิ่งมีชีวิตเหมือนมนุษย์คนแรกได้เดินทางจากแอฟริกามาถึงยุโรป ต่อมาไม่นานพวกโฮโม เซเปียนได้พัฒนาวัฒนธรรมขึ้นในยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันตกเฉียงใต้

      ยุคศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล
      อารยธรรมไมนวนเกิดขึ้นที่ Crete อันเป็นสังคมที่มีการศึกษา พวกไมนวนมีระบบการปกครองและมีการสร้างพระราชวังที่ประณีตสวยงามสำหรับชนชั้นปกครอง
      ยุค 16,000 ปีก่อนคริสตกาล
      อารยธรรมไมซีเนียนเกิดขึ้นตามหลังอารยธรรมไมนวน มีการสร้างและมีระบบปกครองด้วยนักรบ

       

      ยุคโบราณคลาสสิก
      ในยุคนี้มนุษย์ได้พัฒนาจนมีการก่อตัวสังคมที่มีการเรียนรู้ซึ่งอุดมไปด้วยศิลปะ วิทยาการ และสังคมวิทยา

      ประมาณ 700 ปีก่อนคริสตกาล
      อารยธรรมกรีกได้เริ่มต้นขึ้น มีนักคิดสำคัญ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น โสเครติสและพลาโต กษัตริย์ฟิลิปที่ 2 ได้ก่อตั้งนครรัฐกรีกขึ้น และโอรสของพระองค์ซึ่งก็คืออเล็กซานเดอร์มหาราช ได้เผยแพร่อารยธรรมของกรีกไปยังดินแดนอื่นๆ ต่อมา

      ช่วงศตวรรษที่ 100 ก่อนคริสตกาล
      อาณาจักรโรมันได้รุ่งเรืองขึ้น และต่อมาก็ประสบกับปัญหาสงครามกลางเมือง จนกระทั่งคริสตศักราชที่ 313 กษัตริย์คอนสแตนตินมหาราชได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์

      คริสตศักราชที่ 800
      อาณาจักรโรมันที่ยิ่งใหญ่สุดท้ายก็ถูกบั่นทอนด้วยความขัดแย้งหลายประการ จักรพรรดิชาร์เลอมาญผู้ปกครองจักรวรรดิแฟรงค์ได้กลายเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน
       

      ยุคกลาง
      ในช่วงยุคกลางของยุโรปเต็มไปด้วยความขัดแย้งและสงครามระหว่างชาติในยุโรปด้วยกัน รวมไปถึงยุคมืดของทวีปยุโรปด้วย

      คริสตศักราชที่ 500
      ในขณะที่ทวีปยุโรปเกือบทั้งหมดได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ อาณาจักรโรมันก็ได้ค่อยๆ อ่อนแอลง ในช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นยุคมืดที่ทำให้วัฒนธรรมและเศรษฐกิจเสื่อมโทรมลง

      คริสตศักราชที่ 1054
      ความแตกแยกระหว่างฝ่ายตะวันตกและตะวันออกได้ก่อตัวขึ้น ทำให้เกิดการแบ่งแยกผู้นำศาสนจักรจนนำไปสู่การแบ่งแยกศาสนาคริสต์ต่อมา มีกองกลุ่มอำนาจใหม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ อาทิ พวกไต่สวนศรัทธาของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิก
      คริสตศักราชที่ 1300
      ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในทวีปได้ค่อยๆ คลายตัวลง ส่งผลให้ทวีปยุโรปเริ่มเข้าสู่การฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นซึ่งก็คือ “กาฬโรค” ทำให้ประชากรยุโรปเสียชีวิตไปจำนวน ในช่วงทวีบยุโรปได้ดำเนินการค้าผ่านพันธมิตรและรัฐอื่นๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจของยุโรปไว้

       


       

      ยุคยุโรปใหม่ช่วงต้น
      หลังจากที่ช่วงเวลาที่เลวร้ายได้ผ่านพ้นไป ทวีปยุโรปก็เข้าสู่ยุคแห่งการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นสู่ยุโรปสมัยใหม่ 

       

      ช่วงศตวรรษที่ 14
      ทวีปยุโรปได้ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในยุคเรเนซองส์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปรัชญา ศิลปะ วิทยาหาร และสังคมศึกษามีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก บุคคลสำคัญๆ ของโลกส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงนี้ อาทิ ไมเคิลแองเจโล ดาวินชี และ มาเคียเวลลี่ เป็นต้น ความรุ่งเรืองในยุคนี้ได้แพร่ขยายไปยังประเทศต่างๆ มากมาย โดยทวีปยุโรปคงความรุ่งเรืองนี้ไปจนถึงปี ศตวรรษที่ 17

      ช่วงศตวรรษที่ 15
      ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปได้เริ่มดำเนินการออกสำรวจโลก ซึ่งนำไปสู่การค้นพบอเมริกาและประเทศอื่นๆ นับเป็นช่วงที่การค้าและการพาณิชย์เจริญขึ้นอย่างมาก
       

      ยุคแห่งการปฏิวัติ สงครามและยุโรปในปัจจุบัน
      เนื่องจากแต่ละประเทศได้มีการพัฒนาไปสู่ขีดสุดในตอนนั้น การปฏิวัติและความขัดแย้งใหม่ๆ ก็ดูไม่น่าจะหลีกเลี่ยงได้

      ศตวรรษที่ 18
      มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการผลิตและภาคส่วนอื่นๆ ต่อมาอีกมากมาย การปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้ได้ขยายไปทั่วโลกจนกระทั่งศตวรรษที่ 19                  

      คริสตศักราชที่ 1914
      ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น กองทัพรัสเซียได้รับความพ่ายแพ้ และได้มีการจัดตั้งสหภาพโซเวียตขึ้น

      คริสตศักราชที่ 1939
      อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ส่งผลให้คนยิวในโปแลนด์ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เยอรมันภายใต้การนำของฮิตเลอร์พ่ายแพ้สงครามภายหลังการโจมตีร่วมกันของสหภาพโซเวียตและกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร

      คริสตศักราชที่ 1946
      เกิดความตึงเครียดระหว่างนานาประเทศขึ้นภายใต้สงครามเย็น ไม่ปรากฏการสู้รบกันเหมือนสงครามที่ผ่านมาในทางกลับกันได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองและสงครามเงียบขึ้น

      คริสตศักราชที่ 1993
      เกิดความตึงเครียดระหว่างนานาประเทศขึ้นภายใต้สงครามเย็น ไม่ปรากฏการสู้รบกันเหมือนสงครามที่ผ่านมาในทางกลับกันได้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองและสงครามเงียบขึ้น
       

       

      ภาษาในทวีปยุโรป

                  ภาษาโบราณในทวีปยุโรป มี4ภาษา ได้แก่

      1.ภาษานอร์สโบราณ

      2.ภาษาเปเชเนก

      3.ภาษาละติน

      4.ภาษาสลาโวนิกคริสตจักรโบราณ

      ภาษาที่ใช้กันในปัจจุบันของทวีปยุโรป

      ภาษาที่ใช้กันในยุโรป ส่วนใหญ่จัดอยู่ในตระกูลภาษาที่เรียกว่า อินโด ยุโรเปียน ซึ่งเป็นตระกูลภาษาที่มีผู้ใช้กันเป็นจำนวนมาก ถึงประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรโลก สำหรับในทวีปยุโรป ตระกูลภาษาอินโดยูโรเปียน แบ่งออกเป็นสาขาต่างๆ รวม 4 สาขา ดังนี้คือ

      1.สาขาภาษาเยอรมนิก หรือติวโตนิก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาดัตช์ ภาษาเฟลมมิส ภาษาเยอรมัน และภาษาสแกนดิเนเวีย ใช้กันมากในยุโรปเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ

      2.สาขาภาษาโรมานซ์ มีรากมาจากภาษาละติน ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกสและภาษาโรมาเนีย ใช้กันมากในยุโรปภาคกลางและภาคใต้

      3.สาขาบัลโต สลาวิก ได้แก่ ภาษาบัลกาเรีย ภาษาเช็ค ภาษาโปลช ภาษาแลตเวีย ภาษาลิธัวเนีย ภาษารัสเซีย ใช้กันมากในยุโรปตะวันออก และบางส่วนของยุโรปภาคใต้

      4.สาขาภาษาอื่นๆ นอกจาก 3 สาขาภาษาแล้ว ยังมีสาขาภาษาอื่นๆที่พบอยู่ในบางท้องถิ่นของทวีปยุโรป ได้แก่ ภาษาเคลติก ซึ่งใช้พูดกันในสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์ของหมู่เกาะบริเตนใหญ่ ภาษากรีก และภาษาอัลแบเนียในประเทศแอลบาเนีย เป็นต้น

       

       

      ลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมของทวีปยุโรป

      ลักษณะทางสังคม

      1. เป็นสังคมที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการต่าง ๆ มาก

      2. เป็นสังคมเมืองมากกว่าชนบท มีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว

      3. มีความผูกพันกับเครือญาติไม่มากนัก ไม่แน่นแฟ้นเหมือนสังคมไทย

      4. เป็นสังคมที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัด รักประชาธิปไตย รักความเป็นอิสระ รักเสรีภาพ ขยันขันแข็ง ในการทำงาน เน้นการช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด มีความเป็นตัวของตัวเอง

      ลักษณะทางวัฒนธรรม เป็นวัฒนธรรมของชาวคริสต์ แบบประชาธิปไตย เพราะประชากรส่วนใหญ่ นับถือศาสนาคริสต์ รักอิสรเสรี รักการปกครองระบอบประชาธิปไตย

       

       

      ลักษณะทางเศรษฐกิจของทวีปยุโรป

       

                เนื่องจากทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีประชากรที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของโลก กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่

      1.การเพาะปลูก เขตเพาะปลูกอยู่ในยุโรปตะวันตก ภาคตะวันออกและภาคใต้ของอังกฤษ ภาคเหนือและภาคตะวันตกของฝรั่งเศส ตอนเหนือของเยอรมนี  ยูเครน

      2.การเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงไปตามลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ

      3.การทำป่าไม้  พบมากในประเทศฟินแลนด์ สวีเดน รัสเซีย นอร์เวย์ ในบริเวณป่าสน ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน นำมาผลิตเป็นเยื่อกระดาษกระดาษ

      4.การประมง  แหล่งประมงที่สำคัญ ได้แก่ ทะเลเหนือ โดยเฉพาะบริเวณที่กระแสน้ำอุ่นแอตแลนติกเหนือบรรจบกับกระแสน้ำเย็นกรีนแลนด์ตะวันออก เกิดเป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุมมากแห่งหนึ่งของโลกเรียกว่า  ดอกเกอร์แบงก์

      5.การทำเหมืองแร่ ยุโรปเป็นทวีปที่มีแร่เหล็กและถ่านหินอุดมสมบูรณ์ เช่นถ่านหิน เหล็กและน้ำมันดิบ

      6.อุตสาหกรรม ยุโรปได้ชื่อว่าเป็นทวีปอุตสาหกรรม เพราะเกือบทุกประเทศมีประชากรผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม

      7.พาณิชยกรรม  เนื่องจากยุโรปความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ทำให้ยุโรปมีการติดต่อค้าขายกับภูมิภาคอื่นและมีการตั้งกลุ่มทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (EU-European Union) 

      8.การท่องเที่ยว ทวีปยุโรปมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอยู่หลายแห่ง ประกอบกับมีภูมิอากาศที่อบอุ่นสบาย จึงเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละมากๆ 

       

       

       

       

      สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป

      ยุโรปนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทวีปที่นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกสารทิศมักจะไปเยี่ยมเยือนกัน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวดังๆ หรือมีชื่อเสียงอย่าง ปารีส ลอนดอน โรม หรือโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการท่องเที่ยวมายาวนาน แต่ในยุโรปก็ยังมีเมืองที่น่าท่องเที่ยว ที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก เราจึงขอนำเสนอ 5เมืองที่ไม่ดัง แต่น่าไปท่องเที่ยวของยุโรป

      1. Marseille, France

                เมือง Marseille มีศักดิ์เป็นเมืองหลวงอันดับ 2 ของฝรั่งเศส รวมถึงเป็นเมืองท่าอีกด้วย แล้วยังมีชายหาดสวยงามที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังได้รับการโหวตเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมในปี 2013

       

       

      2. Utrecht, Netherlands
             ในประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือฮอลแลนด์ เมือง Utrecht ก็น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ตัวเมืองยังมีคลองอยู่หลายสาย อีกทั้งประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเมืองนี้มีหลักฐานการอยู่อาศัยนับตั้งแต่ยุคหิน (ประมาณ 2200 ปีก่อนคริสตศักราช) หากไปเดินเมืองนี้ก็จะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของตึกเก่าแก่ที่มีศิลปะงดงาม และบรรยากาศสบายๆจากคลองที่มีอยู่รอบเมือง

       

      3. Edinburgh, United Kingdom
             เมื่อกล่าวถึงสหราชอาณาจักร ผู้คนต่างคิดกันถึงประเทศอังกฤษก่อนเป็นอันดับแรก และจะตามมาด้วยเมืองท่องเที่ยวอย่างลอนดอน แต่ในเมือง Edinburg นี้ก็มีดีไม่แพ้กัน เพราะเป็นเมืองหลวงของสก็อตแลนด์ ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวง แต่มีวิวธรรมชาติสวยๆ ให้ดูเยอะ รวมถึงงานศิลปะ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ชวนชมมากมาย

       

      4. Siena, Italy

               หากนึกถึงอิตาลี อันดับแรกที่คนก็จะนึกถึงก็ คือโรม และต่อมาก็น่าจะเป็นเวนิส ลองมาเที่ยวเมือง Siena ด้วยการออกแบบให้อาคารและสิ่งก่อสร้างทั้งเมืองทาหลังคาสีแดงสดสวย และเมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งอีกด้วยล่ะ

       

      5. Maribor, Slovenia
             เมือง Maribor มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม อีกทั้งยังมีหนึ่งในสวนองุ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เมือง Maribor เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวในด้านการปลูกองุ่นและบ่มไวน์เลยทีเดียว และอย่าลืมไปเยี่ยมชม Fontana Terme Maribor ศูนย์รวมสปาขนาดใหญ่ของเมือง

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×